หลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ทำให้เราไม่สามารถขับถ่ายปัสสาวะ อุจจาระได้อย่างเป็นปกติ เช่น การที่ต้องเดินทางไกลหลาย ๆ ชั่วโมง โดยรถโดยสารประจำทางที่ไม่มีห้องน้ำ หรือห้องน้ำไม่สะอาด ไม่สะดวกสบาย คุณผู้หญิงก็คงทำใจลำบากที่จะต้องเข้าห้องน้ำที่สกปรก มีกลิ่นเหม็น ก็ทำให้ต้องอั้นปัสสาวะไปอีก ถึงแม้ว่าจะเดินทางโดยรถส่วนตัวก็ตามแต่ บางครั้งต้องเดินทางบนถนนบางสายที่เป็นทางด่วน มอเตอร์เวย์ โทลเวย์ ซึ่งก็ไม่สามารถจอดแวะพักทำธุระข้างทางได้ หรือเหตุการณ์ที่กำลังประชุมวางแผนยุทธศาสตร์อย่างเข้าได้เข้าเข็มกับผู้จัดการอาวุโส ซึ่งไม่สามารถแม้แต่จะขออนุญาตมาเข้าห้องน้ำได้ เหตุการณ์หลาย ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่สามารถจัดการได้ ทำให้คุณผู้หญิงเหล่านี้ต้องกลั้นปัสสาวะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งการกลั้นปัสสาวะนั้นไม่เป็นผลดีกับร่างกายของเราแน่นอน
กระเพาะปัสสาวะ เป็นอวัยวะภายในที่อยู่ใกล้กับมดลูกของคุณผู้หญิง และอยู่ด้านหน้าท่อทวารหนักของคุณผู้ชาย มีลักษณะเป็นถุงกลวง มีหน้าที่เก็บปัสสาวะที่ขับออกมาจากไต ปกติกระเพาะปัสสาวะของผู้ใหญ่จะเก็บปัสสาวะได้ประมาณ 500 มิลลิลิตร แต่เราจะรู้สึกปวด อยากถ่ายปัสสาวะเมื่อมีน้ำปัสสาวะอยู่ในกระเพาะปัสสาวะประมาณ 250 มิลลิลิตรขึ้นไป การกลั้นปัสสาวะนาน ๆ ครั้ง อาจจะไม่ก่อให้เกิดความผิดปกติแต่อย่างใด แต่หากบุคคลนั้นมีเหตุการณ์ที่ต้องกลั้นปัสสาวะอยู่บ่อย ๆ ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะมากขึ้นได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการผิดปกติของไต หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยต่อมลูกหมากโต นอกจากนี้ การกลั้นปัสสาวะบ่อย ๆ ก็อาจทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ จากการที่มีจำนวนเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะปัสสาวะ หรือในระบบทางเดินปัสสาวะ (ไต กรวยไต ท่อไต) เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ติดเชื้อมีอาการปวดแสบ ขัด ขณะปัสสาวะ รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อย ๆ แต่ปัสสาวะไม่ค่อยออก จะรู้สึกปวดมากเวลาที่ปัสสาวะใกล้จะสุด ปวดเกร็งท้องน้อย ปัสสาวะมีสีขุ่น และมีกลิ่นเหม็น บางรายปัสสาวะออกมามีเลือดปน จนทำให้ปัสสาวะมีสีแดง ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการรับประทานยาปฏิชีวนะ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง เช่น ควรปัสสาวะให้สุดทุกครั้งที่ขับถ่ายปัสสาวะ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1,500 – 2,000 ซีซี (6-8 แก้ว) ควรจิบครั้งละน้อย ๆ ไม่ควรดื่มน้ำครั้งละมาก ๆ และต้องลดปริมาณน้ำลงหากต้องเดินทางไกล ประชุม ชมภาพยนตร์ หรือก่อนเข้านอน สำหรับคุณสุภาพสตรีควรถ่ายปัสสาวะก่อนและหลังการมีเพศสัมพันธ์ และทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศ เพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อดังกล่าว
แต่หากรับประทานยาปฏิชีวนะแล้ว อาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ไข้สูง หนาวสั่น ปวดหลัง ปวดเอว แสดงว่าเชื้อโรคได้แพร่กระจายไประบบทางเดินปัสสาวะ อาจลุกลามจนเป็นสาเหตุให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดได้ และทำให้ต่อมลูกหมากอักเสบในคุณผู้ชายด้วย หากมีอาการต่าง ๆ เหล่านี้คงต้องไปพบแพทย์แล้วค่ะ ดังนั้น เพื่อป้องกันภาวะดังกล่าว ทุกท่านไม่ควรกลั้นปัสสาวะไว้นานนะคะ